5 วันแล้วยังไร้วี่แวว 6 ลูกเรือประมงหายกลางทะเล เจ้าของเรือร้องไห้ อาจถูกปรับหลายแสน

วันที่ 26 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการค้นหาลูกเรือประมงลอบปูที่ประสบภัยเรือล่ม เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. เวลา 03.00 น. และมีลูกเรือ 6 คนสูญหายไป ระหว่างเกาะรัง และเกาะคลุ้ม อ.เกาะช้าง จ.ตราดนั้น

ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเนรมิต สงแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง สนับสนุนเรือยางท้องแข็ง 2 ลำ, นายสมคิด สายสังข์ กำนันตำบลเกาะช้างใต้ นำเรือประมงพื้นบ้าน 7 ลำ และ นายวิริยะ ชัยศิริ นายกสมาคมประมง จ.ตราด นำเรือประมงอีก 8 ลำ ปูพรมออกค้นหาผู้สูญหาย โดยสภาพภูมิอากาศและคลื่นลมทะเลยังมีความรุนแรงเหมือน 2-3 วันที่ผ่านมา

นายเนรมิต กล่าวว่า การค้นหาในขณะนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากคลื่นลมยังมีความรุนแรง และคลื่นเคลื่อนออกจากฝั่งเกาะช้าง ซึ่งทำให้ยังไม่สามารถระบุทิศทางของลูกเรือทั้ง 6 คน ได้ เชื่อว่าอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่เป็นถังน้ำและเชือกที่นำไปด้วยนั้น อาจจะช่วยชีวิตได้ แต่คงไม่นานนัก เพราะลูกเรือที่แม้จะมีความเชี่ยวชาญกับการอยู่ในทะเล แต่เวลาที่นาน 3-4 วัน อาจจะทำให้สภาพร่างกายทนสภาพการขาดอาหารและน้ำจืดได้ไม่นาน

จากประสบการณ์ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ทะเลอันดามันพอจะประเมินสถานการณ์ที่ยากลำบากของลูกเรือประมงทั้ง 6 คนได้ ก็ได้แต่ภาวนาให้พบเจอโดยเร็วที่สุด ซึ่งทุกวันทางอุทยานฯ เกาะช้างก็จะสนับสนุนเรือและเจ้าหน้าที่เพื่อติดตามลูกเรือจนกว่าจะพบ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นายเรืองศักดิ์ พานิชภูมิ เจ้าของเรือประมงลอบปู เพื่อติดตามความคืบหน้า แต่ นายเรืองศักดิ์ อยู่ในระหว่างเสียใจและร้องไห้ จึงไม่ขอให้รายละเอียดใดๆ

ด้าน นายนที สินประสาน รองนายกเทศบาลตำบลเกาะช้างใต้ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก นายเรืองศักดิ์ ว่า สาเหตุที่ร้องไห้เสียใจไม่ใช่เรื่องที่ทราบว่าลูกเรือเสียชีวิตแต่ประการใด เพราะมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าตราดโทรติดต่อมา เพื่อทราบรายละเอียดของเรือประมงโดยเฉพาะทะเบียนเรือ

แต่ปราฏว่า เรือประมงลำนี้ไม่มีทะเบียนถูกต้อง ซึ่งผิด พรบ.เจ้าท่าและ พรบ.ประมง หากพบว่าผิดจริงจะถูกปรับเป็นเงินหลายแสนบาท จึงเสียใจและร้องไห้ออกมา เพราะเรือประมงลำนี้ซื้อต่อมาจากเพื่อน และไม่ทราบว่าไม่มีทะเบียนหรือไม่ต่อทะเบียน จึงเป็นเหตุให้ร้องไห้ ส่วนการติดตามลูกเรือทั้ง 6 คน ยังไม่พบร่องรอยใดๆ

ด้าน นายมานพ เหลืองอ่อน เจ้าท่าตราด เปิดเผยว่า ได้ติดต่อไปยังเจ้าของเรือประมงเพื่อแจ้งถึงการตรวจสอบประมง ซึ่งพบว่า เรือประมงลำที่ล่มน่าจะมีความผิดตาม พรบ.ประมง หรือ พรบ.เจ้าท่า ซึ่งได้ขอให้นำหลักฐานทะเบียนเรือมาแสดงต่อสำนักงานเจ้าท่า ในส่วนของการเยียวยานั้น พรบ.เจ้าท่าไม่มีในการช่วยเหลือ ส่วนพรบ.ประมงจะมีข้อกำหนดในการเยียวยาช่วยเหลือ แต่หากไม่มีทะเบียนอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ และอาจจะผิด พรบ.ประมงด้วย

ล่าสุด นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล และประธาน กมธ.เกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วยคณะทำงานพรรคก้าวไกล และ นายณรงค์ ชัยศิริ นายกสมาคมประมงจังหวัดตราด ลงพื้นที่เกาะช้าง เข้าพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งเข้าพบ นายเรืองศักดิ์ เจ้าของเรือประมง พร้อมครอบครัวของลูกเรือทั้ง 6 คน ที่ยังคงรอคอยอย่างมีความหวังว่าจะค้นพบลูกเรือทั้ง 6 คน

นายศักดินัย ยังประสานการช่วยเหลือด้านการค้นหาลูกเรือทั้ง 6 คน และให้หน่วยงานทั้งสำนักงานประมง จ.ตราด เจ้าท่าตราด หรือหน่วยงานอื่นในการเข้าช่วยเหลือและเยียวยาแก่เจ้าของเรือ และญาติของผู้สูญหายได้ ตามสิทธิประโยชน์ที่พี่น้องประมงพึงได้รับหากเกิดเหตุการณ์เรืออับปาง หรืออุบัติภัยอื่นๆ กลางทะเล ซึ่งชาวประมงไม่ทราบเรื่องเหล่านี้